>>>ศิษย์ถาม : กราบนมัสการครับ.. เมื่อคืนนอนพิจารณาธรรม..ฮ่
ทุกหัวข้อธรรมมีหน้าที่เฉพา
โลกุตละธรรมมีหน้าที่…. มีปัญญาเห็นตามความเป็นจริง
วิชา..มีหน้าที่ทำความเข้าใ
วิมุติ..ทำหน้าที่…หยุดวั
แม้เราผู้ประฏิบัติจนบรรลุธ
เพราะมันเป็นของเจ้าคนนี้..
ทุกอย่างของเจ้าคนนี้จึงไม่
แต่เป็นมายาของจิต……ฮ่า
แต่ทุกหัวข้อธรรมนั้นก็เป็น
เกิดดับตามสภาวะ……เพราะ
แต่รู้แล้วรู้เลย….ครับ..
กราบนมัสการ
>>> พระอาจารย์ตอบ : ธรรมะ มันก็คิดเอาได้ และไปเรื่อยตามเหตุและผลของ
ต้นไม้ มันไม่มีความรู้สึกนึกคิดอย
หากเรารู้เห็นว่า ความรู้สึกนึกคิด ทั้งเหตุและผล ถูกผิดจริงไม่จริง มันเป็นอาการหนึ่งของจิต ที่มันปรุงไปตามหน้าที่มันเ
มานะ ทิฏฐิ ตัณหา มันก็จะไม่เกิด เพราะไม่มีตัวกูเข้าไปเป็นเ
การปรุงนี้เป็นผลของ อวิชชาตัวหนึ่ง มันย่อมปรุงไปเรื่อยทั้งทาง
ทางธรรมก็คือมันปรุงไปตามสภ
ส่วนทางโลกมันมีเจ้าของการป
ผู้เสือกรู้ทั้งหลาย ไม่รู้ว่า นี่คือการปรุง จึงให้นิยามสมมุติต่างๆ ว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างน
ต่อมรู้เหล่านี้ มันเป็นแหล่งแห่งภพทั้งนั้น
เมื่อภพมี ชาติก็มี เมื่อชาติมี อะไรก็เกิดตามๆ กันมาก็มีอีก
ภพนี้เป็นผลแห่งอุปาทาน อุปาทานเป็นผลแห่งตัณหา
ตัณหาเป็นผลแห่งเวทนา
เวทนาเป็นผลแห่ง ผัสสะ
ผัสสะเป็นผลแห่งอายตนะ
อายตนะเป็นผล แห่งนามรูป
นามรูปเป็นผลแห่งวิญญาณ
วิญญาณเป็นผลแห่งจิตสังขาร
จิตสังขารเป็นผลแห่งอวิชชา
แล้วอวิชชา เป็นผลแห่งอะไร…..??????
นี่..ท่านผู้รู้ธรรมทั้งหลา
ผู้รู้แจ้ง ย่อมวิเคราะห์และอธิบายออกม
หากเข้าใจว่าตนแจ้งจริงแท้ ธรรมที่ตี จะกลายเป็นโมทนา แล้วจะได้รู้ว่า ที่คิดว่าถึงธรรมนั้น มันจะแสดงผลออกมา โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครม
ลองตอบและอธิบายมาซิ อวิชา…เป็นผลของอะไร..???
พระธรรมะเทศนา พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง เทศนาเมื่อ 17 กรกฎาคม 2557
จากการถาม-ตอบ จิตไร้การอบรม…ย่อมเป็นโท